สวัสดีค่ะคุณแม่ทั้งหลาย วันนี้ทาง BabyQto มีสาระดีๆมาฝากคุณแม่ค่ะ โดยปกติเด็กจะมีพัฒนาการของกล้ามเนื้อมัดเล็ก ที่สังเกตได้จากใช้มือหยิบฉวยคว้าสิ่งของเมื่ออายุประมาณ 3-4 เดือน และจะเริ่มพัฒนามาเป็นการหยิบด้วยนิ้วโป้งกับนิ้วอื่นๆ ตอนเดือนที่ 5-6 พอถึงเดือนที่ 8-9 คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มฝึกให้ลูกหยิบอาหารกินทานเอง เพราะจะฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กของลูกให้แข็งแรงมากขึ้นค่ะ
1. ปล่อยให้เลอะเทอะบ้าง ช่วงแรกที่ฝึกให้กินข้าวเองลูกอาจจะทำอาหารเลอะเทอะบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งการที่ลูกได้ลองใช้มือหยิบจับ เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ลูกเรียนรู้การกิน และรู้จักอาหารมากขึ้น หลังจากนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็ค่อยสอนลูกว่าควรทานอย่างไร ตักอย่างไร แล้วคอยบอกลูกว่าอาหารเป็นของมีค่า อาหารเอาไว้ทานไม่ใช่ของเล่นค่ะ
2. ลดของว่างระหว่างมื้อ ไม่ควรให้ลูกกินจุบจิบทั้งวัน เพราะจะทำให้ลูกไม่หิวเมื่อถึงมื้ออาหาร เมื่อลูกหิวบางทีคุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องบอกให้ทานเลยค่ะ ลูกอาจจะหยิบอาหารหม่ำ เข้าปากนำไปก่อนแล้ว
3. ปรับเปลี่ยนเมนูอาหาร โดยเริ่มจากนำอาหารที่ลูกชอบมาผสมกับเมนูผัก เพื่อฝึกให้ลูกทานผักเป็นมาทำเมนูใหม่ๆ เช่น ไข่ตุ๋นใส่ผักหลากสี หมูบดใส่ข้าวโพด ซุปบรอกโคลี ซุป ข้นแซลมอนใส่แครอท เป็นต้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ลองสังเกตว่าลูกชอบทานอะไรแล้วลองมิกซ์แอนด์แมทช์ และไม่ลืมตกแต่งหน้าอาหารให้มีสีสันน่ารับประทาน หรืออาจตกแต่ง เป็นรูปการ์ตูน เพื่อดึงดูดความสนใจให้ลุกอยากทานอาหารมากขึ้นค่ะ
4. จัดปริมาณอาหารให้เหมาะสม คุณพ่อคุณแม่ควรจัดอาหารและสัดส่วนโภชนาการอาหารให้เหมาะสมกับวัยของลูก เพราะวัยนี้จะทานไม่เยอะในแต่ละมื้อ อีกทั้งยังมีการดื่มนม ด้วย จึงไม่ควรตักอาหารให้ลูกเยอะเกินไป เพราะอาจทำให้ไม่อยากกินข้าว อมข้าว หรือกลายเป็นเด็กที่มีน้ำหนักเกินค่ะ
5. ไม่ดูทีวีหรือทำกิจกรรมอื่น ไม่ดูทีวีหรือทำกิจกรรมอื่นบนโต๊ะอาหาร ทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกเพราะอาจเบี่ยงเบนความสนใจในการกินอาหารของลูกได้
6. กำหนดเวลาการกินอาหาร ควรกำหนดเวลาในการกินอาหารของลูก ซึ่งในแต่ละมื้อไม่ควรให้ลูกกินข้าวเกิน 20-30 นาที
7. กินข้าวพร้อมกัน ลองจัดโต๊ะอาหารและกินข้าวพร้อมกับลูก เพราะลูกจะได้เห็นบรรยากาศของมื้ออาหาร และยังได้เรียนรู้วิธีการกินอาหารจากคุณพ่อคุณแม่ เพราะเด็กเล็กจะ เลียนแบบการกระทำของผู้ใหญ่ คุณพ่อคุณแม่ควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก เช่น ทานผักหรืออาหารที่มีประโยชน์ให้ลูกเห็น เมื่อถึงเวลาทานอาหารจะไม่ทำกิจกรรมอื่น พูดคุย พร้อมบอกประโยชน์แก่อาหารแต่ละชนิดบนโต๊ะให้ลูกฟัง เป็นต้น